12 ธ.ค. 2561

มะขาม

มะขาม
ที่มา : https://kanyaratpunalao.wordpress.com/%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B0%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A1-2/

รหัสพรรณไม้: 7-56000-002-059
ชื่อวิทยาศาสตร์: Tamarindus indica L.
ชื่อวงศ์: Leguminosae – Caesalpinioideae
ชื่อพื้นเมือง : มะขาม
ถิ่นกำเนิด : เป็นพื้นพรรณไม้พื้นเมืองของทวีปแอฟริกา  แถบประเทศซูดาน
การขยายพันธุ์  :  ทาบกิ่ง , ติดตา , ตอนกิ่ง
เวลาออกดอก :  1 ปี  มะขามจะออกดอกและบานประมาณ 5-10 ชุด ระยะเวลาไม่เกิน 2 
ทั่วไป
  • ต้น : ลำต้นเหนือดิน  ตั้งตรงเองได้                                           1112
  • ใบ : มีใบประกอบ  แบบขนนกปลาย   สีเขียวอ่อน  ขนาดใบ กว้าง  4  ซ.ม.ยาว 25ซ.ม มีลักษณะพิเศษของใบ คิือ  เป็นใบย่อย  รูปขอบขนาน  ปลายใบและโคนใบมน         สีเขียว มีการเรียงตัวของใบบนกิ่งแบบสลับระนาบเดียว  รูปร่างแผ่นใบเป็นรูปขอบ                                                                                                       13
  • ดอก : ดอกเป็นช่อกระจะ ตำแหน่งออกของดอกตามลำต้นหรือกิ่ง กลีบเลี้ยงแยกจากกัน มีจำนวน 4 กลีบ สีชมพูอมแดง กลีบดอกจะเป็นกลีบดอกแยกกัน มีจำนวน 3 กลีบ สีเหลืองลายแดง เกสรเพศผู้จะมีจำนวน 3 อัน สีเหลือง เกสรเพศเมียจะมีจำนวน 1 อัน สีเขียว รังไข่เหนือวงกลีบ
  • ผล :  ผลเป็นแบบผลเดี่ยว ผลแห้งจะมีฝักหักข้อ  สีของผลถ้าเป็นผลอ่อนจะมีสีเขียวเทาและถ้าเป็นผลแก่จะมีน้ำตาลเกรียม รูปร่างผลจะเป็นฝักยาวจะมีลักษณะพิเศษของผลคือมีผิวเปลือกเกลี้ยง  เป็นสีน้ำตาลเข้ม เมล็ดจะมีจำนวน 3-12  เมล็ด สีของเมล็ดจะเป็นสีน้ำตาล รูปร่างของเมล็ดค่อนข้างกลม                                                                                                                                                       14
การปลูก
  1.  การเลือกพันธุ์มะขามและระยะปลูก
  2. การเตรียมดินก่อนจะปลูกมะขาม ขุดหลุมกว้าง 50 ซม. ลึก 50 ซม. หรือถ้าดินและน้ำดีอาจหลุมเล็กกว่านี้ ผสมดินปลูกลงในหลุมด้วยแกลบดิบหรือเปลือกถั่วลิสง ปุ๋ยคอกเก่า 1 ส่วน และหน้าดิน 1 ส่วน หรือถ้าไม่มีจริงก็ใช้เศษหญ้าใบไม้แห้งกับหน้าดินก็ได้ ดินผสมประมาณ 1 ลูกบาศก์เมตร เติมกระดูกป่นหรือปุ๋ยซูเปอร์ฟอสเฟต ½ – 1 กก. ถ้าแหล่งใดดินเป็นกรดควรเติมปูนขาวหรือปูนดินอีก ½ กก. เตรียมหลุมรดน้ำไว้พร้อมที่จะปลูกได้
การดูแลรักษา            
  1.  1 การให้น้ำ ควรให้น้ำต้นมะขาม ทันทีหลังจากเก็บฝักและตัดแต่งกิ่งแล้ว เพื่อมะขามจะได้ผลิใบใหม่ออกดอกเร็วขึ้น และออกดอกพร้อมกัน ทำให้ฝักแก่เก็บได้เร็วขึ้นอีกด้วย ควรให้น้ำทุกครั้งเมื่อมีการให้ปุ๋ยทางดินและให้บ้าง ขณะติดฝักอ่อนในช่วงที่ฝนทิ้งระยะ หรือดินมีความชื้นน้อย และหยุดการให้น้ำเมื่อฝักเริ่มแก่
  2. การใส่ปุ๋ย ควรใส่ในปริมาณที่ไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป เพราะจะมีผลต่อคุณภาพของมะขาม
ส่วนที่มีกลิ่น คือ ดอก
ลักษณะวิสัย :ไม้ต้น
ประโยชน์: เนื้อไม้ ใช้ท าเป็นเขียง ใบอ่อนและดอก ใช้รับประทานเป็นอาหารได้ เนื้อในผล (มะขามเปียก) ใช้ผล แก่ประมาณ 10-20 ฝักน ามาจิ้มเกลือกิน แล้วดื่มน้ าตามลงไป หรืออาจใช้ท าเป็นน้ ามะขามคั้นเอาน้ ากิน เป็นยาแก้ อาการท้องผูก เป็นยาระบาย แก้ไอขับเสมหะ ช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย ลดการกระหายน้ า หรือใช้เนื้อมะขาม ผสมกับข่า และเกลือพอประมาณรับประทานเป็นยาขับเลือดขับลม แก้สันนิบาตหน้าเพลิง หรืออาจใช้ผสมกับปูน แดง แล้วน ามาพอกหรือทาบริเวณที่เป็นกลากเกลื้อนหรือฝี เมล็ดแก่ น ามาคั่วให้เกรียมแล้วกระเทาะเปลือกออกใช้ ประมาณ 20-30 เม็ด น ามาแช่น้ าเกลือจนอ่อนใช้กินเป็นยาถ่ายพยาธิิไส้เดือนในท้องเด็กได้ หรือใช้เปลือกนอกที่ กระเทาะออก ซึ่งจะมีรสฝาดใช้กินเป็นยาแก้ท้องร่วง และแก้อาเจียนได้ดี
สรรพคุณทางยา : มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ ลดความร้อนของร่างกาย ละลายเสมหะ แก้กระหายน้ำ เสริมสร้างภูมิต้านทานโรคให้แก่ร่างกาย ด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระ รากมะขามช่วยในการสมานแผล รักษาโรคเริม ช่วยรักษาหวัด อาการไอ
Share:

0 Comments:

แสดงความคิดเห็น

About Me

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระราชดำริบางประการเกี่ยวกับ การอนุรักษ์พันธุกรรมพืช "การสอนและอบรมให้เด็กมีจิตสำนึกในการอนุรักษ์พืชพรรณนั้น ควร ใช้วิธีการปลูกฝังให้เด็กเห็นความงดงาม ความน่าสนใจ และเกิดความปิติที่จะทำการ ศึกษาและอนุรักษ์พืชพรรณต่อไป การใช้วิธีการสอนการอบรมที่ให้เกิดความรู้สึกกลัวว่า หากไม่อนุรักษ์แล้วจะเกิดผลเสีย เกิดอันตรายแก่ตนเอง จะทำให้เด็กเกิดความเครียด ซึ่งจะเป็นผลเสียแก่ประเทศในระยะยาว"

BTemplates.com

บทความที่ได้รับความนิยม

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

ค้นหาบล็อกนี้

ร้านรอยลายยอ (ROI LAI YOR)

ร้านรอยลายยอ (ROI LAI YOR)
ร้านรอยลายยอ (ROI LAI YOR)